โคเอนไซม์ คิวเทน(CoenzymeQ10) ใน ดี-ท๊อค(DE-TOC)
โคเอนไซม์
คิวเทน หรือ โคคิว 10 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ยูบิควิโนน (Ubiquinone) เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ อันจะส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ
ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
Q10 ที่ผลิตในร่างกายนี้ สังเคราะห์มาจากกรดอะมิโนที่ชื่อ
ไทโรซีน (Tyrosine) และฟีนีลอะลานิน(Phenylalanine) โดยกรดอะมิโนทั้ง 2 ตัวนี้ จะสร้างส่วนวงแหวนควิโนน
(Quinone Ring) ส่วนสายยาว (side chain) สร้างมาจากอะซีติลโคเอ (Acetyl CoA)โดยอาศัยกระบวนการในร่างกายหลายขั้นตอนร่วมกันกับวิตามิน
7 ชนิด คือ วิตามินบี 2 (Riboflavin) วิตามินบี
3 (Niacinamide) วิตามินบี 6 กรดโฟลิก
(Folic Acid) วิตามินบี 12 วิตามินซี
และกรดแพนโททีนิก (Pantothenic Acid)
มีรายงานเกี่ยวกับ Q10
ว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโรค กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
และสิ่งสำคัญคือมีผลต่อการทำงานของระบบหัวใจ พบว่า Q10 ช่วยเพิ่มประสิทธิการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจอย่างชัดเจน
จึงทำให้มีการจ่าย Q10 ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจอย่างมากมาย
Q10 ทำงานอย่างไร
Q10
ทำหน้าที่เกี่ยวกับการให้พลังงานแก่เซล
ดังนั้นเซลที่ยังมีชีวิตก็จะมีความต้องการพลังงานเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ
ก็จะต้องการ Q10 เช่นกัน
อีกทั้งเซลที่ต้องการพลังงานสูงก็จะต้องการ Q10 มากกว่าเซลที่ต้องการพลังงานน้อย
จึงเป็นเหตุที่เราจะพบ Q10 มากในเซลหัวใจ ดังนั้นหากขาด Q10
ก็จะมีผลให้การทำงานในเซลผิดปกติ ส่งผลให้เซลตายได้
ประโยชน์ของ Q10
โรคหัวใจและหลอดเลือด
ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณ คลอเลสเตอรอล
ในเลือดสูงเกินไป จนทำให้ไปอุดตามหลอดเลือดต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจ
ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายไปบางส่วน ซึ่ง Q10 ช่วยแก้ปัญหาได้โดยไปยับยั้งไม่ให้
คลอเลสเตอรอล จับเป็นก้อนอุดตันเส้นเลือด
ช่วยรักษาโรคหัวใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจล้มเหลวเนื่องจากเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
(congestive heart failure) ทั้งนี้ผู้ป่วย โรคหัวใจ
ดังกล่าวจะมีแน้วโน้มที่จะสัมพันธ์กับการขาด Q10 ดังนั้นเมื่อผู้ป่วย
โรคหัวใจ ได้รับ Q10 จึงทำให้หัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น
อีกทั้งด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระคล้ายกับวิตามินอี Q10 จะทำหน้าที่ช่วยยับยั้งอุดตันของเส้นเลือดของ คลอเลสเตอรอล
โรคอัลไซเมอร์
การรับ Q10 เข้าไปในร่างกายสามารถช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เนื่องจากใน
Q10 มี ฟีนีลอะลานิน (Phenylalanine) ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้กระตุ้นการเผาผลาญอาหารของร่างกาย
เป็นฮอร์โมนที่ประกอบด้วย ไอโอดีนทำให้รู้สึกสดชื่นตื่นตัว อารมณ์ดี
ลดความซึมเศร้า ช่วยให้ความจำดีขึ้น คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของ Q10
สามารถช่วยปกป้องการทำลายของอนุมูลอิสระในสมอง และโรคชรา
จะเห็นได้ว่าหมอบางคนแนะนำให้กับผู้ป่วยที่อายุเกินกว่า 50 ปีขึ้นไปให้รับประทาน Q10 เพื่อที่จะช่วยอาการขี้หลงขี้ลืม
และช่วยชลอการทำลายของเซลสมองอันเนื่องมาจากโรค อัลไซเมอร์ และโรคชรา
แต่อาการจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคนด้วย
Q10 เป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) และเป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง
ดังนั้นจึงนำ Q10 มาใช้เป็นเครื่องสำอางสำหรับลดการเกิดริ้วรอย
ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังจากแสงแดด (Photoaging)กล่าวคือ
ผิวหนังจะมีหน้าที่ในการป้องกันสารพิษ เชื้อโรค และรังสีอุลตราไวโอเลต (Ultraviolet)
จากแสงอาทิตย์ มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของ Q10 ต่อการลดริ้วรอยว่าสามารถทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง ซึ่งหมายถึง
ทำให้ริ้วรอยนั้นตื้นขึ้นได้ โดยให้กลุ่มทดลองใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Q10
อยู่ 0.3% ทารอบดวงตาเป็นเวลานาน 6
เดือน พบว่า ความลึกของริ้วรอยลดลงถึง 27% รวมถึงช่วยในการเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
โคเอนไซม์
คิวเทน มีอยู่ใน ดี-ท๊อค(DE-TOC)
ปัจจุบัน สามารถล้างสารพิษจากลำไส้ โดยไม่ต้องทำ Detox เพียง กินดี-ท๊อค(DE-TOC)
ปัจจุบัน สามารถล้างสารพิษจากลำไส้ โดยไม่ต้องทำ Detox เพียง กินดี-ท๊อค(DE-TOC)
วิธีรับประทาน
: รับประทานครั้งละ 1-2
เม็ด ก่อนนอน 30 นาที
1.การรับประทานเพื่อผลในการล้างสารพิษ(detox)
2.การรับประทานต่อเนื่องเพื่อดูแลรูปร่างและผิวพรรณ
ดูข้อมูลที่ http://detocmirvalai.blogspot.com
2.การรับประทานต่อเนื่องเพื่อดูแลรูปร่างและผิวพรรณ
ดูข้อมูลที่ http://detocmirvalai.blogspot.com
ขนาดและราคา 1 ขวด 30 เม็ด
ราคา 1,360 บาท
(บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง)
สั่งซื้อที่
คุณ จุฑาชลัท อินทวะระ
โทร : 082-0571981,097-3983248
ID Line : valai1981 อีเมล์ kprimss@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น